วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วัดป่านาคำน้อย ๑ : ปฐมบทแห่งประเพณีการอยู่วัด


เนื่องด้วยอีกไม่กี่วัน

ก็จะได้เดินทาง

ไปอยู่วัด

วัดป่านาคำน้อย

สถานที่ซึ่งเป็นแหล่งพักพิงทางจิตใจเรื่อยมา

ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔


จุดเริ่มต้นของการไปอยู่วัด

ก็เริ่มที่

เพื่อนของข้าพเจ้า

ปรารถนาจะบวชช่วงเข้าพรรษา

จึงถามข้าพเจ้าว่า

จะบวชที่ไหนดี

ข้าพเจ้าจึงแนะนำที่นี่ให้

ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่เคยไป

แต่ทราบจากเบื้องลึกของจิตใจว่า

ที่นี่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำสั่งสอน

ทั้งยังเป็นสถานที่อันดี

หลวงตา  (มหาบัว)  ให้การอุปการะมาโดยตลอด


ครั้นเพื่อนข้าพเจ้าไปบวชแล้ว

จึงได้แนะนำข้าพเจ้า

และเล่าประสบการณ์ให้ฟังเป็นอันมาก

กอปรกับถึงกาละ

ที่ข้าพเจ้าจะต้องไปที่นั่นเสียแล้ว

จึงได้นำพาข้าพเจ้าไป

เมื่อวันสงกรานต์  ปี  ๒๕๕๔

หะแรก  ข้าพเจ้ายังไม่ได้อยากมาอยู่ที่วัด

เพราะอยากอยู่บ้านกับครอบครัว

ในเทศกาลสงกรานต์อยู่

แต่เมื่อครูบาวิทย์ท่านได้ถามว่า

ไม่มาอยู่ที่วัดหรือ

ข้าพเจ้าตอบไปว่า

อยากมาอยู่  แต่ยังไม่พร้อม

ท่านก็ว่า

ไม่พร้อมเรื่องอะไร

ข้าพเจ้าก็ว่า

มีเรื่องยากอยู่หลายอย่าง

ท่านก็ว่า

ยากอะไร

ข้าพเจ้าตอบไม่ได้

ท่านจึงชวนให้อยู่วัด

ข้าพเจ้าไม่ได้เตรียมตัวเอาผ้าผ่อนมา

จึงขอโอกาสกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อน

วันพรุ่งจึงจะมาอยู่


จากนั้นก็ได้กลับบ้าน

และมาที่วัดอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

เพื่อมานอนที่วัด

นับเป็นการมานอนที่วัด

อย่างจริงจัง

คนเดียวเป็นครั้งแรกในชีวิต

เพราะปกติ

หากไปปฏิบัติธรรมที่อื่น

ก็ได้นอนเป็นหมู่คณะ

กุฏิศาลาก็มีคนเยอะพลุกพล่าน

แต่ที่นี่

เงียบสงบ

เต็มไปด้วยป่า

ไม่มีผู้คนรบกวน

อนึ่ง

ข้าพเจ้าตอนนั้น

เป็นไข้อาการหนัก

น้ำมูกไหลตลอดวัน

ยังนึกกริ่งเกรงอยู่ว่า

จะปฏิบัติได้ไม่ดี

แต่พอไปอยู่วัดเท่านั้น

ตื่นเช้าขึ้นมา

อาการไข้ก็หายเป็นปลิดทิ้ง

นั่งสมาธิเดินจงกรมภาวนาได้

อยู่วัดประมาณสามวัน

ก็ต้องกลับ

เพราะงานเยอะ

ตั้งใจว่า

จะมาอีกปีใหม่

เป็นความตั้งใจอย่างแน่วแน่


ต่อไปเป็นรูปภาพ



โซลาเซลล์  สำหรับทำน้ำอุ่น
ไว้อาบตอนหน้าหนาว



ถาน
กุฏิไม่ได้มีส้วมมีถานไว้ทุกกุฏิ
ต้องใช้ร่วมกัน
ต้องเดินออกมา



ถนนในวัด
เห็นสะอ้านสะอ้านอย่างนี้
มันไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง
พระ  คนอยู่วัด  ช่วยกันกวาด


ทางเข้ากุฏิ
ก็ต้องกวาดให้สะอาด
เป็นระเบียบเรียบร้อย



กุฏิแต่ละแห่งจะเข้าไปลึกพอสมควรจากถนน
เพื่อความสงบวิเวก
กระนั้นก็ตาม
ท่านไม่ให้คนภายนอกเข้าไปเพ่นพ่านภายในบริเวณวัด
วัดป่านาคำน้อยนั้น
กว้างขวางกว่าพันไร่
หาที่ปฏิบัติธรรมใดสงบเท่านี้ไม่มีอีกแล้ว


ทุกกุฏิมีทางเดินจงกรม
ไม่มีไฟฟ้า



ทางขึ้นทำขาดจากกัน
เพื่อป้องกันสัตว์บางจำพวก
เช่น  หนู  มด  แมลงต่าง ๆ  


กุฏิพอคุ้มหัวเท่านั้น
ภายในไม่มีอะไร
นอกจากผ้าห่ม  ผ้าปูนอน
เสื่อนั้น  บางที่ก็ยังไม่มี
กลางคืนจะมืดมาก


ที่อยู่คราวนี้

เพื่อนของข้าพเจ้า

เป็นผู้จัดหา

เนื่องจากเป็นหน้าร้อน

ก็พิจารณา

ว่าที่ไหนมีร่มเงามาก

ก็นำพาข้าพเจ้าไปอยู่

เป็นกัลยาณมิตรของแท้


พุทธังกุโร
๒๓  ธันวาคม  ๒๕๕๖