วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วัดป่านาคำน้อย ๓ : กัลยาณมิตร


ที่วัดนั้น

ข้าพเจ้าได้พบกัลยาณมิตรเป็นจำนวนมาก

บางท่านเสาะแสวงหาที่ปฏิบัติธรรม

ไปกี่ที่ ๆ  

ก็มาลงเอย  ณ  ที่แห่งนี้



อย่างไรก็ตาม

กัลยาณมิตร

คือสิ่งสำคัญที่สุดของการปฏิบัติธรรม

พระอานนท์เคยพูดกับพระพุทธเจ้าว่า

กัลยาณมิตรนั้น

คือครึ่งหนึ่งของการปฏิบัติธรรม

พระพุทธเจ้าตรัสว่า

"เปล่าเลยอานนท์  กัลยณมิตรนั้น

คือทั้งหมดของการปฏิบัติธรรมต่างหาก"



คำว่า  กัลยาณมิตร

กินความหมายกว้างขวางมาก

แต่กัลยาณมิตรอย่างหนึ่ง

ที่ข้าพเจ้าอยากกล่าวก็คือ

คนที่จะเดินทางไปด้วยกับเรา

แน่นอนว่า

คามคติแห่งการบำเพ็ญบารมี

จะเป็นอะไรก็ตาม

คนเรามักมีคู่บารมี

มีเพื่อน

มีมิตร

ที่ปฏิบัติไปด้วยกัน

พระโพธิสัตว์ก็มีพระนางพิมพาเป็นคู่บารมี

มีพระสารีบุตร  พระโมคคัลลานะ  พระอานนท์  ฯลฯ

เป็นเพื่อนร่วมทาง

ซึ่งเพื่อนร่วมทางในระหว่างการสร้างบารมีนี้

ดูเหมือนว่า

เพื่อนที่เดินไปด้วยกัน

ในระยะเวลายาวนานที่สุดของพระพุทธเจ้าสมณโคดม

ก็คือ  พระนางพิมพานั้นเอง

เพราะกว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า

ประเภทปัญญาธิกะ

ต้องบำเพ็ญบารมีถึง  สี่อสงไขย  แสนมหากัปป์

พระนางเป็นผู้ที่อยู่เคียงข้าง

คอยช่วยเหลือ  คอยเสียสละ

ถึงขนาดเอาตัวเข้าแลกเพื่อการบำเพ็ญของพระโพธิสัตว์

อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด

เรียกว่า

มีหัวใจเด็ดเดี่ยวอย่างยิ่งยวด

และสำคัญอย่างยิ่งยวด



พระโพธิสัตว์ไม่มีคู่บารมี

เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้

นี่คือความจริง



ต่างจากสาวกอื่น ๆ  

ใช้เวลาร่วมกันมาน้อยกว่า

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สำคัญเลย

เพราะการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ต้องวางรากฐานศาสนา

ต้องมีเพื่อนพ้องมากมายเพื่อดำรงศาสนา

ดังนั้น

กัลยาณมิตรจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด

ศาสนาพุทธดำรงอยู่ได้ถึงทุกวันนี้

ก็เพราะความเป็น  "กัลยาณมิตร"  ทั้งสิ้น




ครั้งนี้เป็นครั้งที่  ๓

ที่ข้าพเจ้ามาอยู่วัด

และได้พาแพรวามาด้วย

ข้าพเจ้าอยู่กุฏิ  "ป่ามะม่วง"

ความจริงน่าจะเรียก  "สวนมะม่วง"  มากกว่า

เต็มไปด้วยต้นมะม่วง

ครูบาวิทย์เลือกให้อีกเช่นเคย

มีความสำคัญคือ

เป็นกุฏิที่ครูบาท่านเคยอยู่ตอนเป็นปะขาวรอบวช

ท่านก็อยู่ที่นี่มาก่อน

มีห้องน้ำในตัว

ใกล้ศาลาใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยอยู่มา












รั้วที่เห็นเป็นรั้วกั้น

พระตำหนักฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ

ท่านมาสร้างไว้ที่นี่

หลังจากหลวงตามรณภาพ

หลวงตาท่านก็ฝากฝังฟ้าหญิงฯ  ไว้กับ

หลวงพ่ออินทร์ถวาย





ทางเดินจงกรมร่มรื่นด้วยต้นมะม่วง








วันสุดท้าย

ขอถ่ายภาพกับหลวงพ่อ

ซึ่งครูบาบางท่านให้ความเป็นห่วง

เกรงว่า

หลวงพ่อจะไม่ให้ถ่าย

แต่เอาเข้าจริง  หลวงพ่อท่านก็อนุญาต

เมตตาพวกเราด้วยดี

ภาพนี้เป็นภาพประวัติศาสตร์

เพราะคนถ่าย

คือ  ครูบาปรัชญา

ผู้ปรารถนาจะบวชไม่สึก

ซึ่งก็คือบุคคลในรูปข้างล่างนี้




บุคคลผู้นี้เอง

ที่เป็นกัลยาณมิตร

แนะนำ  จัดหาทุกสิ่งอย่าง

อำนวยความสะดวกแก่ข้าพเจ้าและแพรวา

เมื่อมาที่วัดป่านาคำน้อย

ตอนนี้บวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งนี้

(ว่าง ๆ  จะนำรูปมาให้ชม)



ครูบาวิทย์ออกบิณฑบาต

สายหลังวัด

ผู้คนแถบนี้

นับว่ามีบุญมาก

ได้ทำบุญกับพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ได้ฟังธรรม

ได้นั่งใกล้

ได้อยู่ในที่สงบ


พุทธังกุโร
๒๓  ธันวาคม  ๒๕๕๖