ไม่ใช่ว่า เราทำความดี แล้วจะถูกต้องดีงามเสมอไป
เพราะ การทำความดี นั้น ต้องมีปัญญาประกอบ
พิจารณาสิ่งต่าง ๆ ให้รอบคอบด้วย ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ
เพราะคิดว่า มันคือความดี แต่ไม่ดูอย่างอื่นเลย
อย่างนี้ใช้ไม่ได้
เข้าทำนอง ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป
มาดูกันว่า การทำความดีที่ไม่ถูกต้อง นั้นเป็นอย่างไร
เรื่องนี้มีใน วิบัติ ๔ ว่าด้วยการทำความดีที่ไม่ถูกต้อง
คือ
๑. ทำความดีไม่ถูกที่
๒. ทำความดีไม่ถูกบุคคล
๓. ทำความดีไม่ถูกกาล
๔. ทำความดีแล้วไม่ตามความดีของตน
ข้อ ๑ นั้น ก็เช่นว่า ทำความดีไม่ถูกที่ถูกทาง อันนี้เรียก คติวิบัติ
ข้อ ๒ อันนี้เข้าใจได้ง่ายอยู่แล้ว ทำไม่ถูกบุคคล
หรือบุคคลที่ทำนั้นไม่สมประกอบ มันก็ไม่ดี เรียก อุปธิวิบัติ
ข้อ ๓ ข้อนี้ชัดเจน ทำไม่ถูกกาลเวลา ก็ย่อมต้องมีอันยอบแย่ เรียก กาลวิบัติ
ข้อ ๔ ข้อนี้ดูเข้าใจยากสุด แต่เรียกให้ง่ายเข้ามาคือ ทำแล้วทำไม่ต่อเนื่อง
ทำไม่ถึงที่สุด ทำย่อ ๆ หย่อน ๆ ยึก ๆ ยัก ๆ เช่น เคยนั่งสมาธิครั้งสองครั้งแล้วก็เลิกนั่งเสีย
เคยทำบุญทำทาน แล้วก็เลิกทำ อย่างนี้เป็นต้น อันนี้เรียก ปโยควิบัติ
ปโยค ก็คือ ประกอบ แปลว่า วิบัติแห่งการประกอบ (กิจ) คือไม่ทำกิจให้สมบูรณ์
เอวัง
พุทธังกุโร
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗